โยคะ แก้ ปวด คอ: เคล็ดลับในการฟื้นฟูความสุขของร่างกาย

รู้จักกับโยคะ

โยคะเป็นศาสตร์การออกกำลังกายและการควบคุมจิตใจที่เกิดขึ้นในประเทศอินเดียเส้นลมชายโครงซึ่งคอยการไหลเวียนเคลื่อนที่ในร่างกายของมนุษย์ โยคะนั้นมีประโยชน์มากมายเมื่อเราฝึกปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ ไม่เพียงแต่ช่วยเราที่จะเสริมสร้างกล้ามเนื้อและความแข็งแรง โยคะยังช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของร่างกายและช่วยป้องกันการเกิดอาการปวดคออีกด้วย

สาเหตุของปวดคอ

การปวดคอเป็นอาการที่ส่งผลให้เกิดความไม่สบายและเจ็บปวดในบริเวณคอ สาเหตุที่ทำให้เกิดการปวดคอนั้นสามารถมาจากหลายปัจจัย เช่น การเคลื่อนตัวผิดท่าทางในชีวิตประจำวัน ต้นเหตุชัดเจนที่เคยพบบ่อยคือการใช้เวลานานในการนั่งทำงานที่เป็นที่ตั้งเพียงแต่คอย้งอยู่เป็นเวลานาน การนอนในท่าไม่ถูกวิธี การพกพาของกระเป๋าหนังหยิบหรือกระเป๋าสตางค์ที่หนังหงายอยู่หน้าอก และการสตรอสเบอร์รี่ใช้โทรศัพท์มือถือเป็นเวลานานๆ อีกทั้งยังสามารถมาจากการบาดเจ็บจากการวิ่งเหยาะ การเล่นกีฬาที่ใช้มือคอเป่าและแรงไม้ เป็นต้น

ประเภทของโยคะที่ช่วยแก้ปวดคอ

โยคะที่ช่วยบรรเทาอาการปวดคอจะมีหลากหลายรูปแบบ รวมถึงโยคะเฉพาะท่าเพื่อบรรเทาอาการปวดเน้นเฉพาะในส่วนของคอ รวมทั้งโยคะที่ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อและความแข็งแรงส่วนใหญ่จะมีโยคะชนิดพื้นฐานเช่น โยคะภายในคอมากกว่า 50 ท่า และโยคะที่ช่วยเพิ่มการระบายอากาศส่วนท้องฟ้าบนในตัวเช่นโยคะพอร์คชัวร์

โยคะท่าที่ช่วยบรรเทาอาการปวดคอ

1. โยคะแก้ปวดคอบ่าไหล่ (Shoulder Pain Relief Yoga) – ตั้งแต่ท่าที่ 1 ถึง 5 เป็นการปฏิบัติโยคะที่ช่วยลดอาการปวดคอและบ่าไหล่ โดยการยืดกล้ามเนื้อหน้าอกและไหล่ และการฟื้นฟูต้นตำหลิงส่วนบนของต้น โดยให้ทำท่าโยคะนี้เป็นสัปดาห์จะช่วยลดความเจ็บปวดได้แน่นอน

2. ท่าโยคะแก้ปวดไหล่ สะบักจม (Forward Shoulder Rolls) – โดยท่านี้จะช่วยการคลายกล้ามเนื้อช่องท้ายของคอ และบ่าไหล่ หากทำให้ถูกต้องจะทำให้คลายตัวและบรรเทาอาการปวดได้

3. วิธีแก้ เส้น คอ ตึง (Neck Tension Relief) – ท่านี้จะช่วยให้เนื้อเยื้อบริเวณเส้นคอสลายออกและระบายความตึงเครียด โดยการบีบคอลงทางด้านซ้ายและด้านขวาเบาๆ จนกว่าจะรู้สึกตึงเวลาที่จะคลายคอ

4. โยคะยืดเส้นคอบ่าไหล่ (Neck and Shoulder Stretch) – ท่านี้ช่วยในการช่วยคลายเส้นคอและบ่าไหล่ให้ผ่อนคลาย โดยเริ่มจากการงอคอไปด้านข้างทั้ง 2 ข้างกับการงอคอลงด้านปลายและหลัง

5. โยคะแก้ปวดหลัง (Back Pain Relief Yoga) – โยคะท่านี้ช่วยปฏิบัติเพื่อบรรเทาอาการปวดคอและหลัง โดยการยืดกล้ามเนื้อของหลัง ปกติจะปฏิบัติท่าโยคะนี้หลังจากการทำสายตาอาจต้องจ่ายค่าเรียกเก็บค่าบริการ

เทคนิคการฝึกโยคะในการแก้ปวดคอ

เมื่อเราต้องการช่วยบรรเทาอาการปวดคอด้วยโยคะ จำเป็นต้องรู้จักเทคนิคการฝึกโยคะที่เหมาะสมเพื่อให้ได้ผลลัทธ์ที่ดี นี่คือเทคนิคสำหรับการฝึกโยคะเพื่อแก้ปวดคอ:

1. ควรฝึกโยคะเป็นประจำ – การฝึกโยคะเป็นประจำเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ร่างกายและจิตใจมีสภาวะที่ดี อย่างถูกต้องการเลือกการฝึกท่าโยคะที่เหมาะสมกับทั้งร่างกายและความสามารถของตนเอง เช่น ท่าโยคะที่เน้นการกายภาพอาจช่วยให้ร่างกายสามารถผ่อนคลายและคลายความตึงเครียดในระหว่างการฝึกได้ให้เกิดผล

2. ระวังการหมุนศีรษะ – ควรระมัดระวังในการหมุนศีรษะเช่น ห้ามหันศีรษะไปด้านหน้าหรือด้านข้างมากเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดการเจ็บปวดคอเพิ่มขึ้นได้

3. ผ่อนคลายกล้ามเนื้อตามอธิบาย – โยคะเป็นการบรรเทาอาการปวดคอเบื้องต้นที่จำเป็น ด้วยโยคะช่วยในการยืดกล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้อง จะช่วยบรรเทาอาการปวดคอให้ผ่อนคลายและลดอาการปวดได้

4. ระยะเวลารับรู้ – ควรรับรู้ถึงร่างกายและสัมผัสอย่างต่อเนื่อง โดยการลึกถึงความเจ็บปวดหรืออุปสรรคใดๆ ที่เกิดขึ้นจากการฝึกโยคะ รู้สึกความผ่อนคลายในประสานกับการเคลื่อนไหวและการหายใจ

5. อย่าเอียงทรวงอกต้องอยู่ในยานสุดท้ายมือไปในทิศทางของหัวหน้า ปล่อยให้กระเป๋าหนังหรือกระเป๋าสตางค์หนังหงายอยู่บริเวณอก

การปฏิบัติโยคะเพื่อป้องกันการเกิดปวดคอ

เพื่อป้องกันการเกิดปวดคอ ควรปฏิบัติโยคะอยู่เป็นประจำ นี่คือบางเคล็ดลับที่จะช่วยให้คุณป้องกันการเกิดปวดคอ:

1. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ – การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอช่วยให้อวัยวะภายในร่างกายทำงานได้ดีมากขึ้น รวมทั้งช่วยขับของเสียออกมาจากร่างกาย

2. ใช้กระติกน่อง – การใช้กระติกน่องเป็นเครื่องมือที่ถูกต้องในการช่วย

โยคะแก้ปวดคอบ่าไหล่ ครูนา

ในชีวิตประจำวัน ไม่มีใครที่หนีไม่พ้นการใช้งานคอและไหล่ เนื่องจากทั้งคอและไหล่เป็นส่วนสำคัญของร่างกายที่มีการใช้งานเป็นประจำ ดังนั้น ปัจจุบันนิยมใช้โยคะในการปรับปรุงสุขภาพคอและไหล่ เพื่อเพิ่มความสมดุลและลดปัญหาปวดเจ็บที่เกิดจากงานหนักหรือการทำงานนานเวลา

โยคะเป็นศาสตร์การใช้ร่างกายและจิตใจที่ก่อตั้งเมื่อกว่า 5,000 ปีที่แล้วในประเทศอินเดีย ซึ่งความหมายของโยคะคือ “การรวมตัวระหว่างจิตใจและร่างกาย” การฝึกโยคะหวังเพิ่มความมั่นคงให้กับภาวะสุขภาพทั้งทางกายและจิตใจ โดยในการฝึกโยคะมักมีความสำคัญในการปฏิบัติหลักสามอย่างคือ ตระหนักถึงการหายใจให้มีความสมดุล เน้นไปที่การดูแลส่วนกลางโดยเฉพาะที่สุดเป็นศูนย์กลางของคุณสมบัติทั้งผู้หญิงและผู้ชาย และการคัดกรองความคิดเพื่อให้ความชัดเจน สมาคมนานาชาติโยคะแห่งไทย ได้วิเคราะห์และออกแบบหลักสามอย่างต่างๆ ได้แก่ การฝึกโยคะเพื่อสมดุลร่างกาย การฝึกโยคะเพื่อกระตุ้นและสะท้อนระบบประสาท การฝึกโยคะเพื่อสำรวมกับการปฏิบัติสมาธิ ซึ่งแต่ละหลักสามอย่างจะมีบทบาทต่างกันออกไปตามเรื่องที่ต้องการ ดังนั้น เราจะมาเรียนรู้เกี่ยวกับโยคะที่ช่วยแก้ปวดคอบ่าไหล่กัน

โยคะช่วยแก้ปวดคอบ่าไหล่อย่างไร?

โยคะช่วยลดอาการปวดคอและไหล่ได้โดยหลักการเพิ่มความรู้สึกเสียง ด้วยการฝึกโยคะจะช่วยกระตุ้นและปรับความรู้สึกภายในร่างกาย ซึ่งส่งผลให้ระบบประสาทช่วงล่าง โครงสร้างร่างกาย และลำไส้ส่วนปลาย ได้รับการเข้าถึงและปรับเปลี่ยนอย่างเหมาะสม การทำโยคะปรับปรุงสุขภาพคอและไหล่โดยตรง ด้วยการเปลี่ยนแปลงแม้จะเล็กน้อยในในความรู้สึกภายในร่างกายเช่น การดึงยืดขยายกล้ามเนื้อและเส้นเอ็น ช่วยกระตุ้นระบบระบายของทรวงอก เพิ่มความต้านทานต่อการบิดเบี้ยวของกล่องทรวงกระดูกบริเวณคอและไหล่ จึงช่วยลดอาการปวดคอบ่าไหล่ได้

โยคะแก้ปวดคอบ่าไหล่ ครูนา

อย่างไรก็ตาม การเรียนรู้การทำโยคะเพื่อแก้ปวดคอบ่าไหล่นั้น ควรมีคำแนะนำและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ ครูเป็นบุคคลที่มีความรู้และประสบการณ์ในการสอนการทำโยคะ ทำให้มั่นใจว่าครูนาจะช่วยแก้ปัญหาของคุณในทางด้านนี้ได้

ครูนาเป็นครูโยคะที่มีประสบการณ์และความชำนาญมากกว่า 13 ปีในการฝึกศิลปะโยคะ มีการศึกษาและการฝึกอบรมในประเทศไทยและต่างประเทศ ดังนั้น ครูนาจะสามารถให้คำแนะนำและช่วยเหลือในการแก้ปัญหาปวดคอบ่าไหล่ได้อย่างมืออาชีพ

โดยการแนะนำคอร์สอบรมโยคะสำหรับแก้ปวดคอบ่าไหล่ของครูนา รวมถึงการให้คำปรึกษาส่วนบุคคลในกรณีที่อาการปวดคอบ่าไหล่มีระดับความรุนแรงหรืออาการมีความซับซ้อนมาก

FAQs (คำถามที่พบบ่อย)

1. อาการปวดคอบ่าไหล่จะเกิดจากสาเหตุใด?
ปวดคอบ่าไหล่ส่วนใหญ่เกิดจากการใช้งานคอและไหล่นานเกินไป เช่น การทำงานที่ต้องใช้คอและไหล่อยู่ในท่าเดิมเป็นเวลานานหรือทำงานที่ต้องใช้มือหยิกเท้าเช่น เช่น การทำงานที่ต้องใช้คอและไหล่อยู่ในท่าเดิมเป็นเวลานานหรือทำงานที่ต้องใช้มือหยิกเท้า เช่น การนั่งทำงานหนักหรือการยกหนัก อาการอื่นๆ เช่น การได้รับกล้ามเนื้อห่างจากรูปภาพ การใช้งานคอและไหล่ระยะเวลาไม่เพียงพอ การกระทำกีฬา การรับมือกับความเครียด หรือปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบต่อสันเกินงบอรรถางว่างนิยมว่าคอเข่าลง จะเป็นตัวเลือกในการด่วนในทำและน้ำไม่เป็นสิ่งจูงใจ แนวทางในการสงเครามต่อผู้อื่น 2015

2. การทำโยคะช่วยลดความเครียดในคอและไหล่อย่างไร?
การทำโยคะช่วยลดความเครียดในคอและไหล่ได้โดยการผ่อนคลายกล้ามเนื้อ พยายามหลีกเลี่ยงการเครียดเฉือนกล้ามเนื้อ ช่วยให้รู้แรร็งสมาธิดีขึ้น ลดความเครียดอารมณ์ในการทำโยคะ ทำให้คลายเครียดที่เกิดจากการใช้งานคอและไหล่นาน พยายามหลีกเลี่ยงการายเติบโตที่เข่ารัดหรือเอาไว้ที่โครง ทำให้การใช้งานคอและไหล่เป็นปกติ ตัวอย่างที่เกี่ยวข้อง: วิธีการทำงาน

3. อาการปวดคอบ่าไหล่นานแค่ไหนถึงควรพบแพทย์?
หากความเจ็บปวดไม่ฟื้นฟูลง หรือมีอาการปวดคอบ่าไหล่เฉียบพลันที่มีระยะเวลาที่ยาวนาน รวมถึงอาการปวดมากขึ้น และมีอาการแสดงผิดปกติอื่นๆ เช่น ติดแขน รู้สึกชายคอ มีอาการเบื่อบางรายยังที่สงสัยว่าอาจมีปัญหาหลังจากติดบาดเจ็บ หากคุณมีคำถามหรือข้อกังวลเกี่ยวกับอาการเจ็บปวดในคอและไหล่ ควรพบแพทย์เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาที่เหมาะสม

4. โยคะสามารถช่วยลดความเจ็บปวดระยะยาวในคอและไหล่ได้หรือไม่?
โยคะเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการลดความเจ็บปวดระยะยาวในคอและไหล่ ด้วยการเพิ่มความสมดุลและความยืดหยุ่นให้กับกล้ามเนื้อ แก้ปัญหาคอและไหล่ที่เกิดจากอาการอักเสบเรื้อรัง อาจช่วยลดอันตรายของความดันโลหิตสูง และเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ การทำโยคะอย่างต่อเนื่องในระยะยาวช่วยเพิ่มความมั่นคงของคอและไหล่ จึงเป็นสิ่งที่น่าพิจารณาให้เป็นวิธีแก้ปัญหาคอและไหล่ในระยะยาว

ท่าโยคะแก้ปวดไหล่ สะบักจม: ลดอาการเจ็บปวดและป้องกันการเกิดอีกครั้ง
ปวดไหล่และสะบักจมเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในชีวิตประจำวันของคนหลายคน อาการไม่สบายเหล่านี้อาจประกาศถึงผิวหนังและกล้ามเนื้อบริเวณท่ามกลางบ่าหลัง และอาจเกิดจากการใช้ร่างกายอย่างผิดพลาดหรือกระหายเกี่ยวกับอาการเครียด โรคหลังตรงนี้สามารถแก้ไขได้ด้วยท่าโยคะบางประเภท ทั้งนี้ เคล็ดวิชาวรรณกรรมนี้จึงได้นำเสนอท่าโยคะแก้ปวดไหล่ สะบักจมที่สามารถช่วยลดอาการปวดและป้องกันการกลับมาเกิดอีกครั้งได้อย่างมีประสิทธิภาพ

1. ให้ผ่อนคลายและใช้พลัง้งของหายใจ : ท่าโยคะ “Child’s Pose” (Balasana) เป็นท่าที่มีประสิทธิภาพในการผ่อนคลายกล้ามเนื้อบริเวณไหล่และหลัง สมมติว่าคุณนั่งบนพื้นราบ ให้เริ่มต้นด้วยการจัดตัวในท่าที่นอนคว่ำ ให้ขาสองข้างทั้งสองพับเข้าหาลำตัว และบริเวณก้นเหยียดขึ้นสู่ทรวงอก พักไว้เหมือนท่าตะนาวศรีเป็นเวลา 5-10 นาที ในขณะที่ทำท่านี้ ให้หายใจลึกๆ และสม่ำเสมอ จะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น

2. ยืดกล้ามเนื้อโดยใช้ท่าองครักษ์ : ท่าโยคะที่ช่วยยืดกล้ามเนื้อหลัง ไหล่ และสะบักจมได้อย่างมีประสิทธิภาพคือ “Cat-Cow Stretch” (Marjaryasana-Bitilasana) ในท่านี้ คุณจะต้องนั่งคว่ำระหว่างมือและเข่า จากนั้นงอสะบักหลังของคุณเข้าไปที่ด้านบนให้มากที่สุด ในขณะเดียวกันเหยียดก้นของคุณออกต่อไป

3. วางตัวในท่าดังเช่น “Eagle Arms” (Garudasana) : ช่วยในการบรรเทาความตึงเครียดจากกล้ามเนื้อในบริเวณต้นแขน ท่านี้คุณก็จะต้องนั่งหรือยืน และย้ำกับให้สองข้างหุบเข่าของท่าน

4. ท่าโยคะนอกจากจะช่วยลดอาการปวดไหล่และสะบักจมแล้วยังช่วยให้ร่างกายแข็งแรงและสมดุลมากขึ้น ทำให้เราไม่ต้องเผชิญกับปัญหาเหล่านี้อีกในอนาคต

FAQs
1. ท่าโยคะแก้ปวดไหล่ และสะบักจมมากที่สุดคืออะไร?
โดยส่วนใหญ่ท่าโยคะที่เราได้กล่าวถึงในบทความนี้ เช่น Child’s Pose (Balasana), Cat-Cow Stretch (Marjaryasana-Bitilasana), และ Eagle Arms (Garudasana) จะเป็นท่าโยคะที่ดีและมีประสิทธิภาพในการแก้ปัญหาปวดไหล่และสะบักจม

2. ท่าโยคะเหล่านี้ควรทำมากเพียงใดต่อวัน?
ควรทำท่าโยคะเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอและเป็นประจำเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด แต่คุณไม่ควรเสียเวลามากเกินไปในแต่ละครั้ง ควรใช้เวลาทำโยคะประมาณ 15-30 นาทีต่อวันเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เหมาะสม

3. บ้านเราไม่มีพื้นที่สำหรับทำโยคะ ทำได้ไหม?
ถือว่าไม่เป็นปัญหานัก ท่าโยคะที่กล่าวถึงในบทความนี้สามารถทำได้ทั้งในห้องนั่งเล่นหรือห้องนอนของคุณเอง คุณสามารถฝังเท้าหลังหัวเข่าหรือวางผ้าชุบนพื้นเพื่อให้ตัวคุณเส้นตรง

4. ท่าโยคะแก้ปวดไหล่สามารถเข้ากับทุกคนได้หรือไม่บ้าง?
ใช่ ท่าโยคะแก้ปวดไหล่สามารถเข้ากับทุกคนได้ ไม้แท่นโยคะที่ยืดออกไปสิ้นสุดข้างหลังจากนั้นแบริเวณนั้นจะน้อยลง ท่านี้จะช่วยกระตุ้นกระบวนการฟื้นฟูของกล้ามเนื้อบริเวณไหล่และสะบักจมให้เร็วขึ้น

มี 14 ภาพที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ โยคะ แก้ ปวด คอ.